สามัญสำนึก


บานาน่าสปริทภาพนี้เก็บเอามาจากเฟซบุ๊ค ขอโทษทีที่จำไม่ได้ว่าเอามาจากใคร แต่เห็นว่าน่ากินดีก็เลยเอามาลงไว้เฉยๆ ขอยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับบทความที่เขียนแต่อย่างใด หรือถ้าใครคิดว่ามันเกี่ยวข้องบ้างก็แล้วแต่ความคิดของท่านก็แล้วกัน

ข่าวคราวของบ้านเมืองในวันนี้ยังคงวนเวียนอยู่กับเรื่องราวของ รัฐบาลรักษาการ ศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. กำนันสุเทพและมวลมหาประชาชน คนเสื้อแดง ศอ.รส. จนท.ตร. กกต. ประชาธิปไตย ขณะที่สถานการณ์โลกก็ยังคงหมุนเวียนไปกับเรื่องราวอีกหลากหลายทั้งความสุข ความทุกข์ ความยุติธรรม ความหลอกลวง เฉกเช่นเดียวกัน

แต่สถานการณ์เรือล่มที่เกาหลีใต้ ซึ่งมีเด็กนักเรียนจำนวนมากเสียชีวิตท่ามกลางความสูญเสียเหล่านี้ กลับมีเรื่องที่โดดเด่นขึ้นมาอยู่เหนือความสูญเสียเท่าที่มีอยู่ กรณี รอง ผอ.โรงเรียนนี้ซึ่งเป็นหนึงในจำนวนผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้กลับผูกคอตายภายในโรงเรียน เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ที่เด็กนักเรียนในความดูแลต้องเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมากในฐานะที่ตนเองเป็นผู้นำไป

และในกรณีเดียวกันกัปตันพร้อมกับลูกเรือจำนวนหนึ่งกลับอพยพออกจากเรือเป็นลำดับแรกก่อนผู้โดยสาร โดยไม่มีความสำนึกถึงความจริงที่ว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นความรับผิดชอบของตน

ในขณะที่ลูกเรือจำนวนหนึ่งกลับแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน ด้วยการช่วยเหลือผู้โดยสารที่ตกค้างอยู่จนสุดความสามารถ โดยยินยอมสละชีวิตตนเองจมลงไปพร้อมกับเรือ

นี่คือความแตกต่างของสามัญสำนึก

รัฐบาลก็เปรียบดังนาวา นั่นเป็นคำกล่าวโบราณนานมา แต่รัฐบาลที่กำลังจมลงกลับไม่มีผู้ใดแสดงความรับผิดชอบต่อหายนะที่กำลังเกิดขึ้น แต่กลับมีความพร้อมที่จะให้ประชาชนที่มีความคิดต่างยกพวกเข้ามาห้ำหั่นประหัตประหารกันจนเลือดนองแผ่นดิน แต่ไม่มีสามัญสำนึกที่จะพิจารณาถึงเหตุและผล ว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้มีสาเหตุมาจากเรื่องใด?

ถ้าหากรัฐบาลรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล(ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นพรรคการเมืองที่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนแบบถาวรมายาวนานจนติดเป็นสันดาน) ยังคงคิดว่าพวกตนเป็นฝ่ายถูกในทุกเรื่องและดันทุรังอ้างคำว่าเพื่อรักษาประชาธิปไตย(ในแบบของตน) และก็กล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นผู้ที่คิดล้มล้างระบอบประชาธิปไตย เนื่องจากพวกตนมาจากการเลือกตั้ง มาสู่สภาด้วยคะแนนเสียงส่วนมากของประชาชน (ส่วนจะเป็นด้วยวิธีการใดนั่นไม่ใช่เรื่องที่จะต้องพูดถึง)

อย่างน้อยก็ควรจะมีสำนึกได้บ้างว่าคะแนนเสียงส่วนมากที่ได้มานั้น เกือบทั้งหมดมาจากโครงการประชานิยมที่เอาใจคนยากจน โดยไม่สนใจใยดีต่อความพินาศของระบบการเงินการคลังในระดับชาติ ดดยไม่ใส่ใจต่อความปั่นป่วนวุ่นวายในระบบเศรษฐกิจของประเทศชาติ  จุดมุ่งหมายหลักคือต้องการเพียงคะแนนเสียงไว้ก่อนเท่านั้น

และในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนี้ ชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์คือเหยื่อของนายทุนผู้ชั่วร้าย โดยไม่สนใจใยดีว่าจะเป็นฝ่ายใด แม้แต่บรรดาขี้ข้าที่ไร้ประโยชน์ของตนเอง สิ่งที่ต้องการคือให้เลือดนองแผ่นดินเพื่อสังเวยตัณหาของตนและครอบครัวเท่านั้น

ฝากภาพข้างต้นไว้ให้ดูเต็มๆ ตาครับท่าน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รู้จักพรรคประชาธิปัตย์

เวลาที่ผ่านไป

รัฐธรรมนูญฉบับแรก