บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤษภาคม, 2010

ติดตามข่าว

ใน YouTube วันนี้มีเหตุการณ์ในเมืองไทยมากมายถูกนำมาลงไว้ทั้งด้วยคนของฝ่ายขวา ฝ่ายซ้าย รวมถึงฝ่ายฉวยโอกาสซ้ำเติมเชื้อไฟ แต่มีอยู่เพลงหนึ่งที่ถูกนำไปดัดแปลงให้เข้ากับสถานการณ์ได้ดีมากที่สุดเพลงหนึ่ง ก็อยากให้ฟังดู ทั้งด้วยความไพเราะของดนตรีและจากภาพประกอบที่ได้อารมณ์สะเทือนความรู้สึกได้มากที่สุดเพลงหนึ่ง แต่อย่าถามผมนะว่ามีความรู้สึกอย่างไร ? ขอให้คิดไว้ว่าผมก็เป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีอารมณ์ มีความรู้สึกเหมือนกัน ไม่ใช่พระอรหันต์ หรือ พวกเศษมนุษย์ที่ใช้น้ำตา ชีวิต เลือดเนื้อและความสูญเสียของประเทศชาติและประชาชนมาเป็นสนามประลองความมักมากในอำนาจ เพียงเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนตนเท่านั้น โดยไม่เคยคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนทั่วไปในแผ่นดิน ส่วนตัวเองกับครอบครัวพากันเสวยสุขอย่างไม่อนาทรร้อนใจต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับแผ่นดินเกิด

เกิดจากตัณหา

รูปภาพ
มีโอกาสแวะเวียนไปเยี่ยมชมบรรดาเว็บบล็อคของชาวบ้านทั่วโลก ก็พบกับความเอาจริงเอาจังและให้ความสำคัญกับเรื่องราวในบล็อคของตนทั้งสิ้น คงมีแต่เราเท่านั้นที่ยังคงมองบล็อคเหมือนกับสนามประลองความสามารถในโลกไร้พรมแดน แต่ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าน่าจะได้เวลาที่สมควรในการเริ่มกำหนดจุดหมายและแนวทางของการเขียนบล็อคให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียที เผื่อจะเห็นแก่นสารในชีวิตและพบทางนิพพานเสียที ซึ่งเรื่องที่จะเขียนก็มีหลายแนวทาง เมื่อนำมาพินิจพิเคราะห์ใช้วิจารณญานและสติปัญญาที่มีอยู่ท่วมหัว(แต่เอาตัวไม่รอด)มากลั่นกรองดูอย่างมั่นใจแล้ว ..... สรุปได้ว่าคงไม่มีสาระเช่นเคย ทำไงได้ โลกเราทุกวันนี้มันมีสาระอะไรให้สนใจนัก นอกจากการดิ้นรนไขว่คว้า แสวงหาอำนาจ แล้วก็แสวงหาทรัพย์สินด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเบียดบังผลประโยชน์ของประเทศชาติ เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น มีแต่ความเห็นแก่ตนเป็นที่ตั้ง เรื่องความน้ำใจนั่นเป็นสิ่งไร้สาระที่สุด นีแหละโลกเรา บอกก่อนนะรูปข้างบนนี่ได้มาจากเมล์ที่ส่งกันไปมาว่อนในช่วงเหตุการณ์คนแดงเดือดในช่วง เมษายน 2553 ถึง พฤษภาคม 2553 ไม่ได้คิดอะไรหรอก เพราะมองดูภาพนี้แล้วมันบอกไม่ถูกว่ารู้สึก

กฎหมายมีเพื่อใคร?

ช่วงเวลาที่ผ่านมาประมาณสามปีกว่าๆ ได้พยายามเก็บรวบรวม กฎหมายไทย โดยจัดแบ่งเป็นหมวดหมู่หลายแนวทาง ทั้งที่แบ่งตามลำดับความสำคัญ แบ่งตามประเภทของกฎหมาย แบ่งตามความรับผิดชอบของแต่ละกระทรวง แบ่งตาม ฯลฯ แต่ดูเหมือนกฎหมายไทยมันออกจะมากมายจนตามเก็บไม่หวาดไม่ไหว มันมากมายจนท่วมท้น บางฉบับก็ออกมาทับซ้อนกัน บางฉบับก็ออกมาล้มล้างฉบับอื่นที่ยังไม่ยกเลิก บางฉบับออกมาโดยไม่มีเหตุผล บางฉบับก็ออกมาเพื่อบังคับใช้ครั้งเดียว จึงทำให้เกิดความสับสนว่าจะออกมาทำไมฟุ่มเฟือยนัก ทั้งๆ ที่ หลักการที่เป็นหัวใจสำคัญของกฎหมายนั้นก็มีอยู่เพียง 2 ประการเท่านั้นเอง คือ 1. ออกมาแล้วมีผลบังคับใช้เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน 2. ออกมาแล้วมีจุดหมายเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน เพื่อครอบครัว และเพื่อเพื่อนพ้องบริวาร ในช่วงเวลาที่ผ่านมาการเจริญเติบโตของประชาธิปไตยเป็นไปอย่างยากเย็นแสนเข็ญ สาเหตุมาจากจุดมุ่งหมายในการออกกฎหมายส่วนมากจะเป็นการออกมาเพื่อผลประโยชน์ตาม ข้อ 2. อันสืบเนื่องมาจากพื้นฐานของประชาธิปไตยเรามีที่มาจากขุนนางเดิมในระบอบเดิมที่มักจะทำตัวเป็นผู้ยิ่งใหญ่เหนือกว่าประชาชน จะเป็นรองก็เฉพาะ พระเจ้าแผ่นดินเท่า

วงจรของสังคม

เหตุที่ทิ้งช่วงห่างออกมา ไม่ใช่ว่าละเลยต่อการแสดงความรู้สึกภายในและแนวความคิดส่วนตัว แต่ว่าได้ลบบความเดิมที่เคยเขียนไว้ออกทั้งหมดไปแล้วจากการนำเสนอและลบมันออกไปหมดสิ้นจากความทรงจำอย่างถาวร และก็ไม่ยินดีที่จะหวนกลับไปคิดถึงมันอีกครั้ง แต่ในส่วนลึกของจิตใจยังคงสับสนต่ออนาคตของประเทศชาติภายใต้เงื้อมมือของผู้บริหารที่นับวันมีแต่การแก่งแย่งชิงดี ลุ่มหลงมัวเมาในอำนาจบารมีและมุ่งหวังแต่การแสวงหาผลประโยชน์จากการทำงาน ปัญหาส่วนนั้นได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนปี 2475 แล้วและยังคงต้องมีต่อไป หากทว่าขณะนี้ปัญหาเหล่านั้นกำลังกระจายลงไปสู่ประชาชนในทุกระดับ ก่อให้เกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย มีการวางแผนกำหนดนโยบายแยกนกออกจากฟ้าแยกปลาออกจากน้ำ บ่อนทำลายระบบของสังคมไทยที่บรรพบุรุษได้เพียรพยายามสืบทอดกันมาอย่างไม่มีวันหวนกลับไปเป็นดังเดิมได้อีกแล้ว นับวันมีแต่จะกระจัดกระจายแตกแยกเป็นเสี่ยงๆ ประชาชนกำลังหันไปยึดเกาะอยู่กับ "ระบบอุปถัมภ์" ดิ้นรนหาที่ยึดเหนี่ยวโดยไม่มีสติ ที่จะระลึกได้ถึงความถูกต้อง ความชอบธรรม ในสังคม ลืมแม้แต่คำว่า "ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์" เพียงเพื่อสน