เวลาที่ผ่านไป

 


ต้นปี 2516 เป็นช่วงเวลาที่ชีวิตยังคงมองหาจุดหมายอะไรไม่เจอสักอย่าง เพียงแต่ทำงานเพื่อหาเงินมาเป็นค่าอาหารประทังชีวิตแล้วก็หายใจทิ้งไปวัน ๆ ในวันที่ถ่ายภาพนี้ที่ปั๊มน้ำมันสามทหาร ชานอำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ในสถานะเด็กปั๊มเพียงคนเดียว กับมีเสมียนสาวอยู่คนหนึ่งซึ่งเป็นหลานสาวเจ้าของปั๊มน้ำมัน อดีต ส.ส.จังหวัดปราจีนบุรี ช่วงเวลานี้ยาวนานไม่ถึง 2 เดือน แต่ก็ต้องเปลี่ยนย้ายไปประจำอยู่ที่ปั๊มน้ำมันสามทหาร สี่แยกกบินทร์บุรี  จากนั้นก็ต้องไปต่อที่ปั๊มนำมันสามทหารอำเภออรัญประเทศ ข้างค่ายทหาร ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมากมายแล้ว เนื่องจากเจ้าของปั๊มทั้ง 3 แห่งมีเจ้าของคนเดียวกัน และที่นี่ก็เป็นจุดสุดท้าย 

แต่ไม่ใช่จุดสุดท้ายของชีวิตนะ

พอดีได้ข่าวว่าโรงเรียนการช่างปราจีนบุรี เปิดรับสมัครนักเรียนในสายอาชีพ และเสียค่าเล่าเรียนเพียงปีละ 80 บาท จึงตัดสินใจสมัครเข้าเรียนในแผนกช่างก่อสร้าง อันที่จริงปีนั้นเขาเปิดรับแผนกช่างยนต์เป็นรุ่นแรกเสียด้วย แต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะไม่ชอบเปรอะเปื้อนน้ำมันอะไรอีกต่อไปแล้ว วิชาที่เรียนในยุคนั้นก็เป็นช่างก่อสร้างเต็มรูปแบบเสียด้วย ตั้งแต่ กลศาสตร์  คณิตศาสตร์ช่าง การคำนวณโครงสร้าง เขียนแบบ ช่างไม้ ช่างปูน ช่างประปา ช่างสี ช่างไฟฟ้า ไม่นับงานระดับจับกังครบถ้วน เรียกว่าเรียนจบก็สามารถปลูกหบ้านได้เองด้วยตัวคนเดียว (ถ้าบ้าพอนะ) ในระหว่างที่ยังเรียนอยู่นั้น ก็จับกลุ่มเพื่อนสนิทออกไปรับงานก่อสร้างบ้าง หาเงินไว้เที่ยวกันตามประสาวัยรุ่น ไปแวะเที่ยวค้างคืนบ้านเพื่อนคนนั้นคนนี้บ้างเป็นบางวัน 

หลายปีผ่านไป เพื่อนที่เรียนการช่างรุ่นเดยวกันก็หยุดหายใจไปแล้วหลายคน บางคนก็อยู่ในกลุ่มเพื่อนสนิทกันมาก ๆ ชนิดที่ว่าไปเป็นทหารก็อยู่ใกล้ ๆ กันอีก แล้วก็แวะไปกินเหล้ากันแทบทุกวัน จนถึงวันที่เพื่อประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว เพื่อนร่วมรุ่นอีก 2 คนก็มาเป็นทหารชั้นนนายสิบอยู่ในค่ายเดียวกัน คนหนึ่งเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุขณะที่ออกสนามตั้งแต่ช่วงปี 2526 อีกคนก็เสียชีวิตด้วยอาการป่วยตามปกติ เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วนี่เอง และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีโอกาสได้รับรู้ว่าเพื่อนบางคนก็จากไปด้วยสาเหตุต่าง ๆ อีกไม่น้อย

ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเปล่า ที่ยังคงมีชีวิตอยู่รอดมาจนถึงวันนี้

เพราะคนที่จากไปน่าจะสุขสบายดีกว่าคนที่ยังหายใจอยู่ ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานด้วยวัยที่สูงขึ้น โรคภัยที่เข้าเย่ี่ยมเยืยนมากมายหลายชนิด แล้วก็ไม่คิดจะจากไปเสียด้วย แต่เกาะติดอาศัยร่างกายของเราอยู่แบบถาวรเสียเลย ยังคงมีอีกหลายเรื่องที่คิดจะทำ แต่ก็ทำไม่ไหว 

ทุกวันนี้จึงต้องขยับร่างกายทำอะไรอีกหลายอย่างที่ถูกคนข้าง ๆ ห้ามทำ เพราะคนอื่นคงไม่เข้าใจหรอกว่า ขีดจำกัดของตัวเรามีอยู่แค่ไหน และตัวเราเองก็คงไม่ก้าวข้ามขีดจำกัดไปหรอก 

ก็คนมันยังอยากจะอยู่หายใจต่อไปอีกสักพักน่ะซี่....

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รู้จักพรรคประชาธิปัตย์

คุณบุญรอด