คือสัจธรรม


บนโลกใบนี้มีชีวิตเกิดขึ้นมามากมายในรูปลักษณะที่แตกต่างกันออกไป บางชีวิตเติบโตขึ้นมาเพียงชั่วครู่ก็พบกับจุดจบ บางชีวิตก็สามารถดำรงคงอยู่ได้อย่างยาวนาน หลายชีวิตเกิดมาเพื่อสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นโดยที่ตนเองไม่รู้ตัว ขณะที่อีกหลายชีวิตเกิดมาโดยมีเจตนาที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น นั่นเป็นสัจธรรมของชีวิตที่เราจะต้องยอมรับมัน

เพราะ "คน" บนโลกนี้มีกำเนิดที่แตกต่างกัน มีแนวความคิดที่แตกต่างกัน ได้รับการปลูกฝังในความเชื่อที่แตกต่างกัน ได้รับการบ่มเพาะดูแลเลี้ยงดูมาจากสถานะที่แตกต่างกัน ได้รับการศึกษาเล่าเรียนและสั่งสอนอบรมมาในระดับสูงต่ำที่แตกต่างกัน 

ที่สำคัญที่สุดคือทุกคนมีพื้นฐานทางด้านสติปัญญาที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

หลายคนเชื่อมั่นในภูมิปัญญาของตนที่มีอยู่ว่าเป็นเลิศเหนือกว่าผู้อื่น ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน นั่นคือการหลอกลวงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เพราะเป็นการหลอกลวงตัวเองให้มีความเชื่อเช่นนั้น

หลายคนมีความเชื่อมั่นในสติปัญญาของตนว่าเป็นผู้ที่ความเฉลียวฉลาดเป็นเลิศ สามารถค้นหาวิธีการในการแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตนได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างให้แก่ผู้หนึ่งผู้ใดทั้งสิ้น มีความมุ่งมั่นที่จะแสวงหาโอกาสในการกอบโกยทรัพย์สินมาในทุกวิถีทางไม่มีเวลาหยุดยั้ง

หลายคนมีความหลงไหลในอำนาจวาสนาและการที่จะได้เป็นใหญ่เหนือกว่าผู้อื่น ทั้งทางด้านชีวิตส่วนตัว ชีวิตการงาน และฐานะทางสังคม มีความต้องการที่จะก้าวเดินไปในทุกหนแห่งด้วยการยอมรับนับถือก้มหัวให้ของผู้คน และมีความต้องการที่จะอยู่เหนือผู้อื่นตลอดกาล

แต่ทุกๆ คนไม่ได้นึกถึงความจริงที่ว่า ชีวิตนี้สั้นนัก

ช่วงเวลาแห่งการฟักตัวเพื่อสร้างรากฐานอาจจะต้องใช้เวลาถึง 10-50 ปีนับตั้งแต่เกิด ซึ่งขึ้นอยู่กับฐานะทางครอบครัวที่แตกต่างกัน

ช่วงเวลาแห่งการดิ้นรนต่อสู้เพื่อแย่งชิงให้ได้สิ่งที่ต้องการนั้นยาวนานกว่า อาจจะต้องใช้เวลา 5 - 50 ปี ขึ้นอยู่กับความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น ฐานะทางการเงิน ฐานะทางสังคม และสถานการณ์ที่เอื้ออำนวย

ช่วงเวลาแห่งการอยู่บนจุดสูงสุดที่ตนเองปราถนาย่อมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเพราะช่วงเวลาเหล่านี้มักจะสั้นนัก อยู่ในช่วง 1 - 20 ปี เท่านั้นเอง

และช่วงเวลาสุดท้ายนั้นไม่ได้หมายความว่าชีวิตจะได้พบกับความสงบสุข แต่มันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่สับสนวุ่นวายมากที่สุดของช่วงชีวิต 

เพราะต้องมุ่งมั่นกับการประคับประคองรักษาสถานะที่ได้มานั้นให้มั่นคงยั่งยืนไปนานเท่าที่ใจปราถนา

แต่ความฝันของ "คน" ไม่เคยยั่งยืน

เมื่อนอนหลับฝันไป สักวันหนึ่งก็ต้องตื่นขึ้นมาจากความฝันนั้น

เพื่อกลับคืนมาหาความจริง

ที่ว่า.....กำลังจะสิ้นลมหายใจ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รู้จักพรรคประชาธิปัตย์

เวลาที่ผ่านไป

คุณบุญรอด