การเมืองสีเทาดำ

 


สังคมไทย มีการขยายตัวในทุกด้านอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ซึ่งก็เป็นไปตามกระแสความเคลื่อนไหวของสังคมโลก ปัจจัยสำคัญของเรื่องเหล่านี้ ก็คือ รัฐบาล ที่จะต้องมีวิวัฒนาการของแนวนโยบายในทางที่เหมาะสม เพื่อให้ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลง แต่ก็จะต้องยึดมั่นใน 3 เสาหลักของประเทศ ต้องยึดมั่นในขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมอันดีของชาติเอาไว้ อย่างเหนียวแน่น เพราะในความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โดยรวมของสังคมโลก ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หลายประเทศกำลังตกอยู่ภายใต้อำนาจมืดจากชาติมหาอำนาจ ที่เข้ามากำกับควบคุม และชี้นำชักใยอยู่เบื้องหลังตลอดมา 

ขึ้นอยู่กับที่ว่า เราจะยอมรับความจริงกันได้มากน้อยเพียงใด 

วิวัฒนาการทางสังคมยุคใหม ทำให้โลกตกอยู่ภายใต้การควบคุมชี้นำทางการเมือง ไม่มีระบอบการปกครองรูปแบบใด ที่ให้อำนาจสูงสุดแก่ประชาชน ตามคำกล่าวอ้างของนักการเมือง ทุกประเทศบนโลกต้องถูกปกครองโดยนักการเมืองทั้งสิ้น เพียงแต่กล่าวอ้างถึงระบอบการปกครอง ที่มีประชาชนเป็นเจ้าของประเทศที่แท้จริง และประชาชนเป็นผู้เลือกสรรผู้แทนของตน ขึ้นมาทำหน้าที่บริหารปกครองประเทศ ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน และเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน 

นั่นคือบทบัญญัติ ที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญการปกครองของทุกประเทศ 

ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว รัฐบาลจัดตั้งขึ้นมาจากพรรคการเมือง ที่ได้รับคะแนนเสียงมาจากการเลือกตั้งสูงสุด ซึ่งไม่ได้หมายความว่า จะเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนทั้งประเทศ เพราะไม่เคยมีประเทศใดในลก ที่มีประชาชนมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งถึง 100 % ซึ่งพรรคการเมืองที่เป็นผู้ชนะอาจได้คะแนนเสียงมาเพียง 10 % ของประชาชนทั่วทั้งประเทศเท่านั้นเอง เมื่อวัดจากจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง  คะแนนเสียงของพรรคการเมืองอื่น คะแนนเสียงของผู้ที่ไม่ประสงค์จะเลือกผู้ใด จำนวนบัตรเสียที่มีอยู่ ดังนั้น ผลของการเลือกตั้งจึงไม่ใช่เสียงของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเสมอมา 

ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาของโลก มีนักการเมืองผุดขึ้นมามากมายราวกับดอกเห็ด ด้วยจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกันออกไป และเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพของสังคม จากเดิมมาจากผู้นำชุมชนที่มีความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง สามารถปกครองนำพาประชาชนก้าวผ่านความยากลำบากนานาประการ ทั้งจากการสู้รบในสงคราม การริเริ่มก่อตั้งชุมชนที่เข้มแข็งมั่นคง แต่หลังจากนั้นมา ผู้นำประเทศเริ่มเปลี่ยนแปลงไป อาจจะมาจากการแก่งแย่งช่วงชิงอำนาจ การสถาปนาตัวขึ้นมาจากอำนาจและอิทธิพล สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน อาจจะมาจากการโกหกหลอกลวงด้วยวิธีการต่าง ๆ นาๆ 

ผู้นำเหล่านี้ มีความพยายามในการสืบทอดอำนาจตามสายเลือด ทั้งนี้ เพื่อความต่อเนื่องในการแสวงหาผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง 

เครื่องมือสำคัญที่สุดของผู้นำเหล่านี้ คือ ประชาชนผู้หลงเชื่อ 

เครื่องมืออีกประการหนึ่ง ก็คือ บรรดาสมุนบริวารที่คอยติดตามรับใช้อย่างซื่อสัตย์

เครื่องมืออีกประการหนึ่ง ก็คือ บรรดาข้าราชการที่มุ่งหวังผลประโยชน์ตอบแทน 

เครื่องมืออีกประการหนึ่ง ก็คือ กระบวนการนิติบัญญัติ ที่สามารถ บัญญัติ แก้ไข เปลี่ยนแปลงกฎหมาย เพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับตน

จึงไม่แปลกที่ประเทศไทย จะมีนักการเมืองเพิ่มขึ้นมาทุกวัน เป็นทวีคูณ ไม่ว่าจะเป็น ผู้มีอิทธิพล เศรษฐีคนมีเงิน ประชาชนคนธรรมดา พ่อค้า นักธุรกิจ ข้าราชการ หรือแม้แต่เด็กที่ยังเรียนหนังสือไม่จบ

เพราะ เส้นทางทางการเมือง มันหอมหวานยั่วยวนใจ ชวนให้หลงไหลเสียเหลือเกิน


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รู้จักพรรคประชาธิปัตย์

เวลาที่ผ่านไป

คุณบุญรอด